A ประวัติหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน

A ประวัติหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน
รหัสสินค้า SKU-02740
หมวดหมู่ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน นครสวรรค์
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 28 ก.พ. 2564
อัพเดทล่าสุด 28 ก.พ. 2564
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์

ท่านยังดำรงสังขารอยู่ ท่านทัน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ สืบทอดวิชามาจากหลวงพ่อเดิม

หลวงปู่พัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน (ธารทหาร) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์

ผู้สืบทอดพุทธาคมจาก... หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล (หลวงพ่อพัฒน์เป็นเหลนแท้ๆ)

ผ่านหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ  หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร

หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเล (หลวงพ่อพัฒน์เป็นหลาน) หลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อ

คำทำนายของหลวงพ่อเทศ.. หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐาน

มีอภิญญาญาณแก่กล้า มีหูทิพย์ตาทิพย์ หยั่งรู้อดีตกาลและอนาคต วิชาอาคมแก่กล้าเป็นที่เลื่องลือมาช้านาน เป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งเมืองปากน้ำโพ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร หลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อ หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเล เป็นต้น..

มีเรื่องเล่าขาลถึงตอนกลอน ที่หลวงพ่อเทศจะมรณภาพว่า หลวงพ่อเทศได้สั่งให้หลวงพ่อเดิม

หลวงพ่ออินและหลวงพ่อหมึกว่า..

ในปีจอถัดไปจะมีลูกหลานของท่าน มาเกิดมาเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนา

ไปจนตลอดอายุขัย ลูกหลานคนนี้จะมาสืบทอดกรรมฐาน และพุทธาคมที่ท่านได้ถ่ายทอดเอาไว้

ขอให้ลูกศิษย์ทุกคนช่วยกันอบรม สั่งสอนถ่ายทอดวิชากรรมฐาน และพุทธาคมให้ด้วย..

เมื่อลูกศิษย์ทั้งหลายได้ฟังก็ตั้งตา รอคอยว่าจะมีเด็กคนใดในตระกูลของหลวงพ่อเทศเกิดขึ้นมาตามที่หลวงพ่อเทศได้ทำนายไว้บ้าง..

กำเนิดเด็กชายพัฒน์... กระทั่งวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ครอบครัวหลานหลวงพ่อเทศ

ที่ชื่อ นายพุฒ ก้อนจันเทศ และนางแก้ว นามสกุลเดิม(ฟุ้งสุข)

ซึ่งอยู่ที่หมู่ 7 บ้านสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ได้คลอดบุตรคนหนึ่งออกมา

และได้ตั้งชื่อให้ว่าเด็กชายพัฒน์..

เจ้าอาวาสวัดสระทะเล(ต่อจากหลวงปู่เทศ) ผู้เป็นลุงได้ทราบข่าวจึงรู้ได้ทันที ว่าหลานชายคนนี้คือลูกหลานคนที่หลวงพ่อเทศได้สั่งไว้ เพราะเกิดในปีจอตามที่หลวงพ่อเทศบอก จึงรีบส่งข่าวไปยัง หลวงพ่ออิน หลวงพ่อเดิม ทันที..!!! เมื่อพระเกจิทั้งสามรูปได้ทราบข่าวแล้ว

ก็ได้แต่เฝ้ารอเวลาที่เหมาะสม จะปฏิบัติตามคำสั่งเสียของ หลวงพ่อเทศผู้เป็นอาจารย์

โดยตกลงกันว่า หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเล ผู้เป็นหลวงลุงแท้ๆของเด็กชายพัฒน์

และหลวงพ่ออินซึ่งสนิทสนมกับครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ (ครอบครัวของเด็กชายพัฒน์เป็นคนส่งปิ่นโต ถวายให้หลวงพ่ออินระหว่างที่หลวงพ่ออินมาเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมกับหลวงพ่อเทศ) จะเป็นผู้สอนกรรมฐาน และวิชาอาคมพื้นฐานให้

ส่วนหลวงพ่อเดิมจะเป็นผู้ถ่ายทอดพุทธาคมชั้นสูงรวมถึงวิชามีดหมออันโด่งดังให้กับ

เด็กชายพัฒน์ด้วยตนเอง...เรียนวิชาภาษาไทย-ขอม วิปัสสนากรรมฐานและอาคมเบื้องต้น..

ต่อมาเมื่อเด็กชายพัฒน์ เติบโตขึ้นจนอายุได้ 5 ขวบ ขณะนั้นทางบ้านสระทะเล ได้เกิดภัยแล้งขึ้น ทำให้ครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ ต้องอพยพไปทำนาที่บ้านหนองเนิน อ.ท่าตะโก

ซึ่งชาวบ้านแทบทั้งหมดเป็นไทยทรงดำ ครอบครัวของเด็กชายพัฒทำนาอยู่ที่นั่นได้เพียง 3 ปี

อยู่ๆไม่รู้นายพุฒ(บิดาของเด็กชายพัฒน์) คิดอย่างไรจึงย้ายมาทำนาที่บ้านหนองหลวง ..

หรือเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิต..!!! ให้เป็นดังคำกลาวของหลวงพ่อเทศ เนื่องจากในเวลานั้นหลวงพ่อเดิมและหลวงพ่ออินได้นำช้างทั้งเจ้าคูณและนางบัวบานมาร่วมกันสร้างเสนาสนะ

ให้วัดหนองหลวงอยู่พอดี เมื่อหลวงพ่อเดิมรู้ว่าเด็กชายพัฒน์มาอยู่ ที่บ้านหนองหลวงจึงขอให้หลวงพ่ออิน(หลวงพ่ออินเป็นศิษย์ผู้น้องหลวงพ่อเดิม) ซึ่งสนิทกับครอบครัวของเด็กชายพัฒน์

ไปขอเด็กชายพัฒน์มาเป็นลูกศิษย์ อยู่ที่วัดหนองหลวง เหตุนี้เอง ที่ทำให้เด็กชายพัฒน์ได้ใกล้ชิด กับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ โดยหลวงพ่อเดิมมักจะเรียกเด็กชายพัฒน์ ไปบีบนวดและสอนคาถาสั้นๆ ให้ท่องจำเสมอๆจนคุ้นเคยกัน...กระทั่งศาลาวัดหนองหลวงเสร็จหลวงพ่อเดิม

จึงกลับไปยังวัดหนองโพ ปล่อยให้หลวงพ่ออินอยู่สร้างวัดหนองหลวงต่ออีกหลายปีจนเสร็จ..

ระหว่างนี้เด็กชายพัฒน์ได้ร่ำเรียน เขียนอ่านภาษาไทยและภาษาขอม กับหลวงอาน้อยและหัดนั่งสมาธิกับหลวงพ่ออิน เมื่อหลวงพ่ออินสร้างวัดหนองหลวง เสร็จแล้วท่านก็ได้กลับไปอยู่ที่วัดหางน้ำสาคร ส่วนครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ ได้กลับมาอยู่ที่บ้านสระทะเลตามเดิม ...

ขณะนั้นเด็กชายพัฒน์อายุได้ 12 ปี จึงได้ย้ายกลับมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสระทะเลจนจบชั้นประถม 4 ก่อนที่พ่อและแม่จะให้ออกมาช่วยทำนา แต่ถึงกระนั้นด้วยความที่ฟ้าได้ลิขิตมา

ให้เด็กชายพัฒน์ต้องเติบโตขึ้นมาเป็นครูบาอาจารย์ผู้สืบทอดวิชากรรมฐาน

และพุทธาคมของหลวงพ่อเทศจึงทำให้เด็กชายพัฒน์มีความชื่นชอบในทางพระ ฝักใฝ่ในกรรมฐาน และพุทธาคมอยู่เสมอ พอมีเวลาว่างจากการช่วยพ่อแม่ทำไรทำนา

เด็กชายพัฒน์ก็มักชอบไปอยู่กับหลวงลุงหมึกเพื่อเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมทุกครั้งไป..ทั้งๆที่เด็กหนุ่มๆ ในวัยนั้นทุกคนมักจะสนใจแต่สาวๆ แต่เด็กหนุมอย่างนายพัฒน์กลับคิดอยากจะบวชเป็นพระ ในขณะที่หลวงลุงหมึกได้ลาสิกขา จากพระมาเป็นอาจารย์ฆราวาส รับใช้ชาติ...

พออายุครบเกณฑ์ทหารนายพัฒน์ ได้ถูกคัดเลือกเข้าไปเป็นทหารแต่ขณะที่จะหมดวาระปลดจากทหารเกณฑ์กลับเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา(สงครามโลกครั้งที่2) ขึ้นเสียก่อน

จึงทำให้นายพัฒน์ต้องเป็นทหารต่อไปจนอายุได้ 24 ปี ระหว่างที่เป็นทหารอยู่นั้น พลทหารพัฒน์ได้ใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมา คุ้มครองป้องกันตัวอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้พลทหารพัฒน์รอดพ้นจากภัยสงครามมาอย่างปรอดภัยครบ 32 ประการ อย่างน่าพิศวง ในขณะที่เพื่อนๆทหารหลายคนที่ออกรบด้วยกัน ต่างพิการบ้าง เสียชีวิตก็เยอะ แต่พลทหารพัฒน์กลับรอดพ้นภัยมาได้ทุกครั้งไปอย่างน่าอัศจรรย์ ..

อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์..เมื่อนายพัฒน์ปลดประจำการ จากทหารออกมาในต้นปี พ.ศ.2489 นายพัฒน์ได้ขออนุญาตพ่อแม่ว่า อยากไปบวชเป็นพระพ่อแม่ก็เห็นด้วยจึงให้ทำการอุปสมบท ณ อุโบสถวัดสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์

(หลวงพ่อยอด ศิษย์หลวงพ่อเทศอีกหนึ่งรูป)วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการชั๊ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อบวชแล้วพระพัฒน์ก็ได้เริ่มเรียนนักธรรมตรีและโทไปได้สักระยะ โดยระหว่างนั้นหลวงพ่อเดิม

ได้ไปสร้างเสนาสนะและโบสถ์อยู่ที่วัดอินทราราม(วัดของหลวงพ่อแก้ว พระอุปัชฌาของหลวงพ่อเดิม อยู่ติดกับวัดเขาแก้วโดยมีเพียงถนนกั้น)

เมื่อหลวงพ่อเดิมรู้ว่านายพัฒน์บวชเป็นพระพัฒน์แล้ว หลวงพ่อเดิมจึงให้ คนมาตามพระพัฒน์ไปเรียนพุทธาคมกับท่าน เมื่อพระพัฒน์ไปพบกับหลวงพ่อเดิมที่วัดอินทรารามหลวงพ่อเดิมก็เริ่มถ่ายทอดกรรมฐานและพุทธาคมให้พระพัฒน์ โดยให้พระพัฒน์ไปจำวัดอยู่ที่วัดเขาแก้ว

กับหลวงพ่อกัน เพราะขณะนั้นวัดอินทรารามกำลังซ่อมสร้างเสนาสนะอยู่จึงไม่สะดวก

ในการพัก ในช่วงเวลานี้เองที่พระพัฒน์ ต้องเดินไปๆมาๆระหว่างวัดเขาแก้วกับ

วัดอินทรารามโดยไปเช้าเย็นกลับเพื่อไปเรียนกับหลวงพ่อเดิม

บางครั้งก็พักค้างแรมกับหลวงพ่อเดิมที่วัดอินทรารามเป็นเวลาหลายๆวันก็มี ..

จนเวลาร่วงเลยไปเกือบสองพรรษา พระพัฒจึงเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิมจนจบ..

หลังจากหลวงพ่อเดิมได้สร้างเสนาสนะ ให้วัดอินทรารามเสร็จแล้ว

ท่านก็กลับไปยังวัดหนองโพได้ไม่นาน หลวงพ่อเดิมก็ถึงแก่มรณภาพ

ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2594 …

ออกเดินธุดงค์แสวงหาสัจธรรม เมื่อพระพัฒน์ได้ร่ำเรียนวิชาของหลวงพ่อเทศผ่านหลวงพ่อเดิมแล้ว ก็ได้ฝึกฝนท่องบ่นภาวนาจนช่ำชอง จนปฏิบัติได้เห็นผลจริงแล้ว ก็ได้ออกเดินธุดงค์เสาะแสวงหา สถานที่สงบเพื่อฝึกฝนวิชากรรมฐาน ฝึกญาณสมาธิให้แก่กล้า ไปยังที่ต่างๆนาๆ ทั้งดินเดนอันลีลับอัศจรรย์ เช่นเมืองลับแล เมืองตาชูชก และอื่นๆ...

ขณะที่หลวงพ่อพัฒน์เดินธุดงค์ ไปยังเมืองลับแลท่านได้ไปพักกับหลวงพ่อชุบ เจ้าอาวาส

วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ และหลวงพ่อชุบ ยังได้ถ่ายทอดวิชาทางเมตตามหานิยมให้หลวงพ่อพัฒน์ และขอให้ท่านเป็นพระคู่เทศน์ ปุจฉา วิสัชนา คู่กับท่านเป็นระยะเวลาอีก 3 ปี ขณะที่หลวงพ่อพัฒน์อยู่ที่วัดบรมธาตุทุ่งยังนั้นท่านได้สนใจ ค้นคว้าค้นหาบ่อน้ำทิพย์เมืองลับแลที่มีกล่าวไว้ในตำราตีมีดของสำนักวัดเขาแก้ว และในที่สุดหลวงพ่อพัฒน์ ก็ได้ค้นพบบ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นและความลี้ลับต่างๆมากมาย..

 

เมื่อถึงเวลาอันสมควรหลวงพ่อพัฒน์จึงได้ขอลาหลวงพ่อชุบกลับวัดสระทะเล แต่หลวงพ่อชุบกลับขอให้ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งแทนท่านอีก 3 ปี เพราะหลวงพ่อชุบท่านจะย้ายไปพัฒนาวัดพระยืนพุทธบาทยุคคลก่อน พลวงพ่อพัฒน์จึงต้องอยู่ดูแลวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งต่อไปอีก 3 ปี รวมเป็น 6 ปี จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสระทะเลอีก 9 พรรษา ขณะนั้นโยมพ่อโยมแม่ของท่านได้พาครอบครัวย้ายมาซื้อที่ดินทำนาอยู่แถวบ้านห้วยด้วน(ธารทหาร) ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เมื่อกำนันผล กำนันตำบลธารทหารทราบเรื่องจึงขอให้โยมพ่อโยมแม่ของพระอาจารย์พัฒน์ช่วยกันอาราธนาพระอาจารย์พัฒน์ มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดธารทหาร เพื่อสร้างพระอุโบสถให้แล้วเสร็จ..

เพราะทราบกันดีว่าหลวงพ่อพัฒน์เป็นผู้สืบทอดกรรมฐานและวิชาอาคมของหลวงพ่อเทศ หลวงพ่อเดิม จึงหวังพึ่งบารมีของท่านให้มาช่วยพัฒนาวัด เมื่อกำนันผลและโยมพ่อโยมแม่ของหลวงพ่อพัฒน์ตลอดจนถึงชาวบ้านเดินทางมาอาราธนาท่านแล้ว หลวงพ่อพัฒน์ก็ตอบตกลง

และย้ายมาพัฒนาวัดธารทหาร(ห้วยด้วน) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา จากนั้นท่านก็ไม่ได้ย้ายไปอยู่วัดอื่นอีกเลย ตราบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้..

ขณะนี้ หลวงปู่พัฒน์ ปุญญกาโม ศิริอายุได้ 99 ปี 76 พรรษา ปัจจุบันนี้สุขภาพร่างกายท่านยังคงแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ชาวหนองบัวและชาวบ้านใกล้เคียงตลอดมา...

อ้างอิงนิตยสารเปิดโลก โดย...คนเล่นของ

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง ออมทรัพย์

หมวดหมู่สินค้า

พระเครื่อง [1569]
หนังและเพลง [2873]

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม1,450,849 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,019,778 ครั้ง
เปิดร้าน2 มิ.ย. 2557
ร้านค้าอัพเดท20 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา

0814848986
พูดคุย-สอบถาม